top of page
Search


ปัจจุบันกระแสข่าวกาเบรียล เฆซุสเตรียมย้ายออกจากเอติฮัต สเตเดี้ยมไปเอมิเรตส์ สเตเดี้ยมกำลังได้รับความสนใจจากสื่อและแฟนบอลเดอะกันเนอร์ทั่วโลก ขณะเดียวกันมีความเป็นไปได้สูงที่ตัวนักเตะชาวบราซิลเลี่ยนเอง ค่อนข้างมีความกระตือรือร้น หวังหวนร่วมงานกับมิเกล อาร์เตต้า อดีตมือขวาเป๊ป กวาดิโอล่าที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้อีกครั้ง แล้วอะไรทำให้อาร์เตต้ามั่นใจว่าเฆซุสจะสามารถรับบทกองหน้าหมายเลข 9 ได้ดี

ปัจจุบันสัญญาของเขาในเอติฮัต สเตเดี้ยมเหลือเพียง 1 ปี คาดว่าค่าตัวไม่เกิน 30 ล้านปอนด์ ปฏิกิริยาของแฟนบอลอาร์เซน่อลต่อข่าวดังกล่าว ค่อนข้างได้รับความสนใจอย่างมาก หลังสตาร์แมนฯซิตี้ตะบันคนเดียว 4 ประตูเกมสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันหลาย ๆ คนรู้ดีว่า เดอะกันเนอร์กำลังมองหากองหน้าคนใหม่ของทีมในระยะยาวแบบยิ่งยวด

สเป็คกองหน้าที่พวกเขาต้องการดูเหมือนจะเป็นแทมมี่ อับราฮัม ขณะที่ดาวิน นูเนซเป็นกองหน้าตัวเป้าอีกรายจากเบนฟิกาที่ชาวเดอะกูนเนอร์พร้อมผลักดันเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เฆซุสกลายเป็นแข้งรายใหม่ที่ดูมีโปรไฟล์ค่อนข้างดึงดูดใจเป็นพิเศษ นับเป็นความตื่นเต้นอีกครั้งของแฟนบอลอาร์เซน่อล เมื่อพวกเขาเพิ่งเสียโอบาเมยอง และเตรียมเสียลากาแซตต์,เอ็นเคเทียห์ ในซัมเมอร์นี้ รวมถึงบาโลกันกองหน้าดาวรุงที่ขาดประสบการณ์พอสมควร ดังนั้นจึงการันตีได้เลยว่า ทีมลอนดอนเหนือเตรียมต้อนรับผู้เล่นกองหน้าเกรด A – B+ ได้เลย

โดยเฉพาะกาเบรียล เฆซุส แข้งชาวบราซิลพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาสามารถเล่นในพรีเมียร์ลีกได้ ผลงาน 3 แชมป์พรีเมียร์ลีกขณะอายุ 25 ปี ติดทีมชาติบราซิลชุดใหญ่ 50 เกม ถือเป็นผู้เล่นอายุน้อยผ่านเกมใหญ่ ๆ มากกว่าผู้เล่นอาวุโสบางคนเสียอีก แต่ถึงกระนั้น กองหน้าวัยเบญจเพสก็ยังไม่ได้รับความไว้วางใจจากเป๊ป กวาดิโอล่าในฐานะกองหน้าตัวเป้าอยู่ดี และนั่นคือประเด็น เพราะ ตัวเฆซุสแทบไม่ได้รับโอกาสลงเล่นตำแหน่งหน้าเป้าเลย ทั้งระดับสโมสรและทีมชาติบราซิล เขามักถูกจับเล่นตำแหน่งแนวรุกด้านข้าง หรืออย่างมากกองหน้าเฟล 9 (False9

หากย้อนกลับไปก่อนหน้านั้นในทีมซิตี้ เป๊ปมักใช้งานอเกวโร่ในฐานะกองหน้าตัวเป้ามากกว่า ขณะที่เฆซุสเป็นกองหน้ายุคใหม่ เขาจะไม่ใช่ผู้เล่นที่ยืนค้ำในเขตโทษ เขาสามารถเล่นได้ทั้งตำแหน่งริมเส้นซ้ายขวา และกองหน้าตัวเป้า กับความสัมพันธ์ระหว่างอาร์เตต้าและเฆซุสนั้นค่อนข้างยอดเยี่ยม เขาเคยร่วมงานกันในแมนฯซิตี้รับบทมือขวาเป๊ป หากเฆซุสย้ายมาปืนโตจริงคาดว่า อาร์เตต้าจะใช้แผนเช่นเดียวกับลิเวอร์พูล 4-3-3 โดยมี 3 ประสานตัวจี๊ดอย่าง เอมิล สมิธิ-โรว์,กาเบรียล เฆซุส และบูคาโย่ ซากา โดยมีมาร์ตินโอเดนการ์ดรับบทเป็นเพลย์เมกเกอร์


เว็บดูผลบอล : ผลบอลสด เว็บทีเด็ดที่แม่นยำที่สุด : ทีเด็ดบอล

10 views0 comments

จุดอ่อนแมนฯยูคือเกมรับ

ใครจะไปคาดคิดว่ากัปตันทีมคือจุดอ่อนของทีม หลังเกม 4-0 เหยื่อทางอารมณ์หลังเกมคือ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ กองหลังทีมชาติอังกฤษ ไม่สามารถทำหน้าที่ผู้นำแนวรับได้ดี เขาคือผู้เล่นที่พยายามเช็คล้ำหน้า เขาดูเหมือนผู้เล่นที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ แต่เขากับทำพลาดจนมีส่วนสำคัญให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์หลุดกัปดดักล้ำหน้า ตรงเข้าไปกรอบเขต นำไปสู่การเสียประตูในที่สุด

ขณะที่ลูกทีมของมิเกล อาร์เตต้า พวกเขาเพิ่งหยุดฝันร้ายแพ้รวด 3 เกมติดได้สำเร็จด้วยการเอาชนะเชลซี 3-2 เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันความมั่นใจของเหล่าผู้เล่นเดอะกันเนอร์ก็เริ่มกลับมาเช่นกัน สำหรับฤดูกาลนี้ของอาร์เซน่อล พวกเขาสามารถพัฒนารูปแบบการเล่นได้ดีแบบผิดหูผิดตา พวกเขากลายเป็นทีมที่ครองบอล และใช้จังหวะเข้าทำถึงกรอบเขตโทษได้น้อยจังหวะมากขึ้น และนั่นคือข่าวร้ายแนวรับแมนฯยูไนเต็ด

สไตล์คุมทีมของรังนิค

ผู้จัดการชาวเยอรมันขึ้นชื่อในเรื่อง การเพรสซิ่ง กระชับพื้นที่คู่ต่อสู้แย่งบอลกลับและสวนกลับ อย่างไรก็ตามดูเหมือนผู้เล่นแมนฯยูไนเต็ดชุดปัจจุบันไม่สามารถซึมซับปรัชญาของผู้จัดการชาวเยอรมันได้ตามที่เขาคาดเอาไว้ ขณะเดียวกันปัญหาของรังนิคนอกจากเกมรับนั่นก็คือเกมรุก โดยเฉพาะตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า เพราะเห็นได้ชัดเมื่อยูไนเต็ดขาดโรนัลโด้ในเกมแอนด์ฟิลด์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามพวกเขาจะได้โรนัลโด้กลับมาร่วมทีมอีกครั้ง แต่นั่นอาจยังไม่เพียงพอ เมื่อพวกเขาต้องเผชิญหน้าคู่ตัวสู้ตัวฉกาจอย่าง มาร์ติน โอเดการ์ดแห่งค่ายปืนโต

โอเดการ์ดคือตัวชี้วัดสำคัญ

เกมที่แมนฯยูไนเต็ดเอาชนะนอริช 3-2 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ยูไนเต็ดเสียถึง 2 ประตูในบ้านตัวเองจนเกือบชวดคว้า 3 แต้ม ทีมท้ายตารางจากคาราจ โร้ดอาศัยจังหวะสวนกลับ ขณะที่อาร์เซน่อลเอาชนะเชลซีเกมสวนกลับเช่นกัน ค่อนข้างชัดเจนว่า เดอะกันเนอร์นั้นน่ากลัวกว่านอริชเยอะ เพราะพวกเขาเต็มไปด้วยแนวรุกดาวรุ่งไฟแรงที่ก่อตัวขึ้นมาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ขณะที่ยูไนเต็ดยังไม่สามารถจุดติดเกมรุกได้เลย ขณะที่เกมรับกำลังเข้าขั้นหายนะ

บทสรุปของเกม

หากมาร์ติน โอเดการ์ด และบูคาโย่ ชาก้า สามารถรักษาฟอร์มเดิมได้ แน่นอนพวกเขาจะสามารถเจาะแนวรับสุดเปื่อยยุ่ยของแมนฯยูไนเต็ดได้อย่างแน่นอน เพราะสถิติเผยให้เห็นแล้วว่า แนวรับยูไนเต็ดมีสถิติสุดห่วยในการประกบผู้เล่น หากแนวรุกเดอะกันเนอร์สามารถทำให้แนวรับยูไนเต็ดหลุดจากตำแหน่งได้ และพวกเขาอาศัยจังหวะสวนกลับเร็ว อาศัยความเร็วของผู้เล่น รับรองได้ว่า แผงรับแมนฯยูไนเต็ดจะไปไม่เป็นอย่างแน่นอน เพราะกองหลังที่ว่าแข็งของเชลซียังโดน นักเตะยังกันเล่นงานมาแล้ว


ติดตามข่าวสาร : ข่าวฟุตบอลต่างประเทศ

ข่าวกีฬาเพิ่มเติม : ข่าวบอลเซเรียอา

4 views0 comments

ปัจจุบันดูเหมือนเอริค เทน ฮาค ผู้จัดทีมอาแจ๊ก อัมสเตอร์ดัมส์ กลายเป็นเต็งหนึ่งสำหรับเจ้าของเก้าอี้ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังมีรายงานว่า โปรไฟล์ของผู้จัดการทีมชาวดัตช์ค่อนข้างถูกใจสโมสรยูไนเต็ดอย่างมาก ถึงแม้พวกเขาจะตกเป็นข่าวเชื่อมโยงกับ ฆูเลย โลเปเตกี,หลุยส์ เอ็นริเก้ และเมาริซิโอ พอชเชตติโน่เช่นกัน แต่ดูเหมือนว่า ผู้จัดการทีมวัย 52 ปี ชาวดัตช์แมนดูจะมีพื้นฐานค่อนข้างดีกับผลงาน 2 แชมป์ลีพ 2 แชมป์ดัทช์คัพ และรอบรองชนะเลิศ UCL ฤดูกาลล่าสุดกับ 10 เรื่องน่ารู้ของเอริค เทน ฮาค



1.ชื่นชอบการเต้น

สมัยเด็กเมื่อก็ตามที่เทน ฮากได้ยินเสียงดนตรี เขามักจะขยับเต้นรำตามจังเพลงอยู่เสมอ ร่วมกับการเตะฟุตบอลที่เขารัก กระทั่งเขามีโอกาสเขาโรงเรียนสอนเต้นในเมือง ฮาร์คเบอร์แกน ในอาแจ็ก ดังนั้นวัยหนุ่มของเทนฮาคจึงค่อนข้างเต็มไปด้วยเรื่องราวเชิงบวก มากกว่าเชิงลบ

2.ทุ่มเทเต็มร้อนจนเกือบตาย !

แม่แท้ ๆ ของเทน ฮาค กล่าวว่า ขณะที่เขาอายุได้เพียง 7 ขวบ เขามีโอกาสติดทีมฟุตบอลท้องถิ่น เนื่องจากผู้เล่นไม่เพียงพอ ส่งผลให้เด็กชายเทน ฮาค จำเป็นต้องฉกฉวยโอกาสดังกล่าวเอาไว้ให้ได้ ผลปรากฏว่าหลังจบเกม เขาอาเจียนแท้บตายเพราะความเหนื่อย เขาอาสาลงเล่น 3 เกม “เขาถึงระดับ หลงใหล หรือคลั่งไคล้ได้เลยหากเอ่ยถึงฟุตบอล” หัวใจนักสู้คืออีกหนึ่งคุณสมบัติตั้งแต่วัยเด็ก

3.เส้นทางอาชีพนักฟุตบอล

เทน ฮาค เซ็สัญญาครั้งแรกกับสโมสรทเวนเต้ ลีกดัทช์ปี 1989 ตลอดอาชีพค้าแข้งเทนฮาคเซ็นสัญญากับ เดอ แกรฟแซตต,อาเคซี อัลไวค์ และเอฟซี อูเทรด อย่างไรก็ตามสำหรับโอกาสย้ายไปเล่นต่างประเทศ เทนฮาคไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร แต่สำหรับเอเรดีวีซี่ลีกดัตทช์ คว้า 1 แชมป์ลีกดัตช์กับเอฟซีทเวนเต้ ฤดูกาล 2000-2001



4.ผู้จัดการทีมครั้งแรก

หลังจากประกาศแขวนสตั๊ดได้เพียง 10 ปี ต่อมาปี 2012 เทนฮาคเซ็นสัญญารับงานฝ่ายบริหารสโมสร โก อเฮดจ์ อีเกิ้ลส์ ลีกดัทช์ 2 หลังเขาได้รับการติดต่อจากมาร์ก โอเวอร์มาร์ส อดีตสตาร์อารเซน่อล แต่ดูเหมือนว่าพวกเขามีโอกาสร่วมงานกันเพียงฤดูกาลเดียวก่อนแยกทาง

5.ทำไมต้องเทนฮาค

ผลงานที่สามารถพิสูจน์อย่างเห็นได้ชัดว่า เอริค เทน ฮาค คือผู้จัดการทีมที่เก่งที่สุดคนหนึ่งในวงการฟุตบอลเนเธอร์แลนดื เมื่อเขาสามารถพาสโมสรโก อาเฮดจ์ อีกเกิ้ลเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดได้เป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปีของสโมสรผลงานยอดเยี่ยมส่งผลให้ ผู้จัดการชาวดัทช์แมน มีโอกาสย้ายไปคุมทีมที่แคว้นบาวาเรียกับสโมสรบาเยิ่น มิวนิค ในบุนเดสลีกาเยอรมันทันที

6.ก้าวสำคัญสู่ลีกไกเซอร์

หากใครไม่ใช่แฟนพันธ์แท้ เอริก เทน ฮาค คงไม่สามารถรู้ได้แน่นอนว่า ผู้จัดการทีมชาวดัทช์คือ หนึ่งในส่วนรวมในการพัฒนาศูนย์ฝึกบาเยิ่น มิวนิค โดยเฉพาะในแง่ของแท็คติก อย่างไรก็ตามบทบาทของเทนฮาคในบาวาเรียคือ เฮ้ดโค้ชทีมสำรองบาเยิ่นฯ ช่วงปี 2013-15

ผู้จัดการชาวดัทช์ไม่ใช่แค่เพียงผู้จัดการทีมสำรองเท่านั้น แต่เทนฮาคมักมีโอกาสพูดคุยเรื่องงานแลกเปลี่ยนทัศนคติกับโค้ชชุดใหญ่บาเยิ่น มิวนิค ขณะนั้นอย่างเป๊ป กวาดิโอล่า “ผมได้เรียนรู้อะไรมากมายจากกวาดิโอล่า” เขากล่าวปี 2019 “ปรัชญาของเขาน่าทึ่งอย่างมาก เขาทำอะไรไว้มากมายกับบาร์เซโลน่า,บาเยิ่น และตอนนี้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เขาสร้างทีมที่เต็มไปด้วยผู้เล่นคุณภาพ และสไตล์การเล่นที่น่าดึงดูด และนี่คือสิ่งที่ผมกำลังทำที่อาแจ๊กฯอยู่ขณะนี้” เทน ฮาค ในฐานะอดีตเฮ้ดโค้ชที่มีสำรอง เคยมีโอกาสเรียนรู้กับเป๊ป ผู้จัดการชุดใหญ่บาเยิ่น



7.กลับบ้านอีกครั้ง

ปี 2015 หนึ่งปีต่อมาหลังจากเป๊ป กวาดิโอล่าตัดสินใจเซ็นสัญญาย้ายไปคุมทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขณะที่เทน ฮาค มีโอกาสได้รับข้อเสนอคุมทีมลีกสูงสุดครั้งแรกในชีวิตกับสโมสร เอฟซี อูเทรด เทนฮาคไม่รอช้าตกลงรับงาน เขาใช้ประสบการณ์ที่เรียนรู้มาจากเยอรมัน และใช้เวลาเพียง 2 ฤดูกาล เขาสามารถพาอูเทรดจบอันดับพื้นที่ฟุตบอลยูโรป้าลีกได้ทันที และไม่นานอาแจ๊กฯติดต่อมา

8.งานใหม่ที่ไฉไลกว่าเดิม

ปี 2017 อาแจ๊กอัมสเตอร์ดัมส์ ภายใต้การบริหารทีมของ มาร์ค โอเวอร์มาร์ส อดีตซี้เก่าเมื่อกลาย แต่ดูเหมือตำนานอาร์เซน่อลมองไม่ผิดเพราะ อดีตผู้จัดการทีมสำรองบาเยิ่นฯสามารถพาทีมจบอันดับ 1 ของตารางคว้าแชมป์ 2 สมัย และบอลถ้วยในประเทศอีก 2 ครั้ง ขณะที่รูปแบบการเล่นของทีมเปลี่ยนไปแบบผิดหูผิดตาอย่างมากด้วยสไตล์ฟุตบอลแบบ โปรเกรสซีฟ ผลงานล่าสุดในเวทียุโรป ปี 2019 เทน ฮาคพาแจ๊กฯหักปากกาเซียนล้มเรอัลมาดริด 4-1 ที่เบอร์นาเบว

9.ศิษย์เอกครัฟฟ์

อดีตลูกศิษย์เทน ฮาค มาร์นิค โคลเดอร์เผยว่า การได้ร่วมงานกับเทน ฮาคเป็นอย่างไร “ผมบอกได้เลยว่าการฝึกซ้อมของเขาค่อนข้างมีรูปแบบที่ชัดเจน” “เขาสามารถรีดเร้นความสามารถของผู้เล่นออกมาได้ดี ไม่ว่าจะเป็นแท็คติก กายภาพร่างกาย เอริคไม่เคยทิ้งโอกาสเหล่านั้น เขาศึกษาคู่ต่อสู้เขาทุกครั้ง และเขาเป็นคนค่อนข้างละเอียดอย่างมาก” อดีตแนวรับ เอฟซี โกรนิงเก้นกล่าว

10.แฟมิลี่แมน

สำหรับเรื่องราวนอกสนาม เทน ฮาคสามารถทำได้ดีไม่มีที่ติเช่นกัน ปัจจุบันเขาแต่งงานกับภรรยา เบียงกา แฟนคนแรกวัยเด็กเทคฮาค ก่อนทั้งคู่จะค่อย ๆ พัฒนาความสัมพันธ์จนมีลูกด้วยกัน 3 คน พวกเขาเป็นครอบครัวที่อบอุ่น ครอบครัวเทนฮาคคือครอบครัวตัวอย่างที่แท้จริง พวกเขาไม่ชอบความหรูหราอู้ฟู่เดินห้าง แต่พวกเขาชอบกิจกรรมกลางแจ้ง เช่นปั่นจักรยาน เดินป่า ตีกอล์ฟกับครอบครัวเป็นต้น


อ่านเพิ่มเติม : ข่าวบอลบุนเดสลีกา

4 views0 comments
bottom of page