top of page
Search

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกเพิ่งผ่านพ้นสัปดาห์ที่ 8 และกำลังเข้าสู่สัปดาห์ที่ 9 ขณะเดียวกันเจ้าซูเปอร์คอมพิวเตอร์ก็ยังคงทำหน้าที่ของมันต่อไปด้วยการ คาดการณ์อันดับตารางคะแนนจบ 38 เกม อย่างไรก็ตามหลังแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดถูกแมนเชสเตอร์ ซิตี้ถล่ม และอาร์เซน่อลเอาชนะท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์แบบสบายเท้า ส่งผลให้หน้าตารางคะแนนมีหน้าตาที่เปลี่ยนไปจากเดิม นับตั้งแต่การคาดการณ์ก่อนฤดูกาลเปิดอย่างเป็นทางการ

จากการคำนวณอันดับตารางคะแนนใหม่ หลังผ่านสัปดาห์ที่ 8 ปรากฏว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะพลาดพื้นที่แชมป์เปี้ยนลีกอีกครั้ง ด้วยการขึ้นมาแทนที่โดยสโมสรอาร์เซน่อลที่กำลังทำผลงานได้อย่างน่าทึ่ง มีความเป็นไปได้สูงที่เดอะกันเนอร์เตรียมตีตั๋วกลับสู่รายการ UCL อีกครั้ง แต่นั่นเป็นเพียงการคำนวณผ่านฐานข้อมูลโดยระบบคอมพิวเตอร์อัจฉริยะเท่านั้น แต่การทำนายดังกล่าวกลับได้รับความนิยมอย่างมากจากแฟน ๆ ในอังกฤษ

บอฟฟินแห่ง OLBG สถาบันสถิติวงการกีฬาสหราชอาณาจักร ระบุว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะจบเพียงอันดับที่ 6 ของตาราง และเป็นอีกครั้งที่เดอะเร้ดเดวิลส์ต้องจำใจลงเล่นรายการคืนวันพฤหัสบดี (ยูโรป้าลีก) อีกครั้ง โดยปัจจัยสำคัญเกิดจากการที่พวกเขาถูกแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยำใหญ่ 6-3 วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันซูเปอร์คอมพิวเตอร์ยังคงหนักแน่น และมองว่า ทีมของเป๊ป กวาดิโอล่ายังคงครองตำแหน่งจ่าฝูงอยู่เหมือนเดิม

หากแมนเชสเตอร์ ซิตี้คือแชมป์ นั่นหมายความทีมจ่าฝูงปัจจุบันอย่างอาร์เซน่อลทำได้เพียงตำแหน่งรองแชมป์เท่านั้น แต่เดอะกันเนอร์ยังมีข่าวดีอยู๋บ้าเมื่อพวกเขาจะมีโอกาสกลับสู่รายการUCLครั้งแรก นับตั้งแต่ฤดูกาล 2016-17 ด้านสโมสรลิเวอร์พูล แม้กำลังเผชิญผลงานย่ำแย่ เกมชัยชนะได้เพียง 2 จาก 7 เกมหลังสุด แต่ทีมของเยอร์เก้น คล็อปป์ยังคงได้รับความเชื่อมั่นจากฐานข้อมูลว่าพวกเขาจะจบอันดับ 3 ของตารางเป็นอย่างน้อย

ขณะที่ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ อันดับ 4 แม้เพิ่งแพ้อาร์เซน่อลในศึกลอนดอนเหนือ 3-1 แต่ทีมของคอนเต้ยังจบอันดับสูงกว่าเชลซีที่ทุ่มเงินตลาดฤดูร้อนสูงกว่า 200 ล้านปอนด์ไว้เพียงอันดับ 5 ต่อมาอันดับที่ 7 ไบรท์ตัน ถือเป็นสโมสรที่ค่อนข้างน่าเซอร์ไพรส์ เพราะเดอะซีรีกูลทำผลานได้ดีเก็บ 1 แต้มจากแอนด์ฟิลด์ 3-3 ได้อย่างน่าทึ่ง

อันดับ 8 ค่อนข้างน่าผิดหวังสำหรับสโมสรเงินถุงเงินถังอย่างนิวคาสเซิล อันดับ 9 เวสต์แฮมของเดวิด มอยส์ และอันดับ 10 ทีมสุดท้ายท่อนบนของตารางคือ แอสตัน วิลล่าของสตีเฟ่น เจอร์ราร์ด สำหรับ 10 ทีมตารางหน้า 2 ประกอบไปด้วย(เรียงลำดับ11-17) เบรนท์ฟอร์ด,ลีดส์,เอฟเวอร์ตัน,ฟูแล่ม,วูลฟ์ และเลสเตอร์ ซิตี้ ด้านโซนตกชั้นเป็นของเซาแธมพ์ตัน,เอเอฟซี บอร์นมัธ และน็อตติ้งแฮมฟอเรตส์ของสตีฟ คูเปอร์ ผู้จัดการที่กำลังเสี่ยงถูกปลดมากที่สุดคนหนึ่ง ณ เวลานี้


18 views0 comments


โจทย์ที่ผู้จัดการทีมพรีเมียร์ลีกทั้ง 19 ทีมจำเป็นต้องเร่งหาวิธีแก้ไข เมื่อพวกเขาต้องเผชิญหน้ากับเออร์ลิง ฮาแลนด์ กองหน้าฟอร์มฮอตที่กดแฮตทริกไปแล้ว 3 เกมในบ้านติดต่อกัน หรือ 8 เกมนับตั้งแต่พรีเมียร์ลีกเปิดฤดูกาล ปัจจุบันกองหน้าชาวนอร์เวย์กลายเป็นนักเตะยิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำมากสุดเท่าที่โลกเคยมีมา หรือนับตั้งแต่ปี 1970 หรือ 52 ปี ก่อน โดยฟรานซิส ลี

นับตั้งแต่พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2022/23 เปิดตัว กองหน้าเจ้าของค่าตัว 52 ล้านปอนด์ สร้างสถิติยิง 19 ประตูจาก 11 เกมให้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยแข้งชาวนอร์เวย์กดเพิ่มไป 2 ประตูเกมชนะโคเปนเฮเกน รายการแชมป์เปี้ยลีก โดยทีมเดียวฮาแลนด์ไม่สามารถส่งบอลเข้าไปกองที่ก้นตะข่ายได้ก็คือ เอเอฟซี บอรน์มัธ ดังนั้นมันจึงพอมีความหวังบ้าง หากสโมสรอื่น ๆ ในพรีเมียร์ลีกต้องการรับมือกองหน้าวัย 22 ปี รายนี้


เพื่อนร่วมทีมซิตี้

ฮาแลนด์จะกลายเป็นผู้เล่นสุดแสนอันตราย เมื่อเข้าอยู่ในกรอบ 18 หลา หลาย ๆ เกมฮาแลนด์สร้างความอันตรายให้แนวรับคู่ต่อสู้ แม้เขาจะไม่มีบอลอยู่กับตัวก็ตาม และหลาย ๆ จังหวะที่ฮาแลนด์ทำได้ดี นั่นเกิดจากเพื่อนร่วมทีมของเขา โดยครั้งหนึ่งเป๊ป กวาดิโอล่า เคยออกให้สัมภาษณ์หลังเกมเอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 6-3 กองหน้าชาวนอร์เวย์ได้รับการยกย่องเปรียบเสมือนลีโอเนล เมสซี่ หรือไม่

เป๊ป กวาดิโลอ่าตอบ “เออร์ลิ่งเป็นนักเตะที่ต้องอาศัยเพื่อนร่วมทีมเพื่อทำบางสิ่ง แต่สำหรับเมสซี่ เขาสามารถทำได้ทุกอย่างด้วยตัวเอง” บทสัมภาษณ์ของเป๊ปล่าสุดดูจะไม่เกินจริง เพราะเมสซี่เปรียบเสมือนมนุษย์ต่างดาว แต่ฮาแลนด์เป็นเพียงมนุษย์โลกธรรมดา ๆ เท่านั้น ดังนั้นการที่สโมสรอื่น ๆ ต้องการหยุดฮาแลนด์ พวกเขาจำเป็นต้องหยุดเควิน เดอ บรอยน์ให้ได้เสียก่อน

หลาย ๆ เกมเดอ บรอยน์ มักจะได้รับบทผู้เล่นอิสระในแนวรุก แต่หลาย ๆ เกมเดอ บรอยน์ มักประจำตำแหน่งมิดฟิลด์ด้านขวา ขณะเดียวกัน 7 ใน 10 ส่วนร่วมในการทำประตู ฮาแลนด์มักทำได้ในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งเพลย์เมกเกอร์ชาวเบลเยียมถือเป็นนักเตะที่มีส่วนสำคัญทำให้ฮาแลนด์ปรับตัวลีกฟุตบอลอังกฤาได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่ได้พึ่งพาความครีเทฟของเควิน เดอ บรอยน์เพียงคนเดียวเท่านั้น

เจาโอ แคนเซโร่,ฟิล โฟเด้น 2 สตาร์ตัวริมเส้นของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ สามารถแอสซิสหรือสร้างโอกาสทำประตูให้กับฮาแลนด์ได้เช่นกัน ซิตี้ไม่ใช่ทีมที่ฝากฝังความหวังไว้กับผู้เล่นเพียงคนเดียว พวกเขามีผู้เล่นหลากหลายทักษะทั่วทั้งสนาม ไล่ตั้งแต่ตำแหน่งฟูลแบ็ค,มิดฟิลด์ตัวกลาง เป็นต้น ดังนั้นการการหยุดเควิน เดอ บรอยน์จึงเป็นปัจจัยแรกที่พวกเขาต้องทำ


เครดิต : ข่าวบอลโลก

13 views0 comments

เชส ฟาเบรกาส ปรากฏตัวสนามเอมิเรตส์ สเตเดี้ยมเป็นครั้งแรก แต่ในฐานะนักวิเคราะห์สังกัด BT Sport สื่อกีฬาดังแถวหน้าของยุโรป ในเกมอาร์เซน่อลเอาชนะท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ 3-1 การปรากฏตัวของฟาเบรกาสในเกมนอร์ทลอนดอนดาร์บี้ที่ผ่านมา ทำเอาแฟน ๆ กูนเนอร์ต่างแปลกใจเมื่อเห็นฟาเบรกาสปรากฎตัวอย่างไม่ตั้งใจ

อดีตกัปตันทีมเดอะกันเนอร์ รับบทนักวิเคราะห์เกมนอร์ทลอนดอน ดาร์บี้ เพียงไม่กี่ชั่วหลังต้นสังกัดโคโม่ของฟาเบรเกส แพ้ให้กับคอนเซนซ่า 3-1 หลังเสร็จสิ้นภารกิจส่วน ฟาเบรกาสได้ปรากฏตัวที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยมอีกครั้ง ปัจจุบันฟาเบรกาสเป็นนักเตะสโมสรโคโม่ กัลโช่เซเรียบี ซึ่งอดีตกองกลางทีมชาติสเปนลงเล่นให้ต้นสังกัดช่วง 19.30 ตามเวลาอังกฤษ หลังจากนั้นไม่นานฟาเบรกาสปรากฎตัวที่ลอนดอน ก่อนจะเดินไปยังสนามเอมิเรตส์ สเตเดี้ยมเพื่อทำหน้าที่นักวิเคราะห์เกม นอร์ทลอนดอนดาร์บี้

สำหรับฟาเบรกาส เขาลงเล่นตำแหน่งกองกลางให้กับโคโม่ แต่ความสามารถและประสบการณ์ของฟาเบรกาส ไม่สามาถช่วยให้ต้นสังกัดของเขาเก็บ 3 แต้มได้ อย่างไรก็ตามสาเหตุสำคัญที่ BT Sport ตัดสินใจเลือกฟาเบรกาสรับงานดังกล่าว เนื่องจากอดีตกองกลางทีมชาติสเปนเคยเผชิญหน้ากับท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ ขณะลงเล่นให้อาร์เซน่อล และเชลซี ซึ่งฟาเบรกาสเคยมีโอกาสร่วมงานกับคอนเต้ สมัยอยู่สแตมฟอร์ด บริดจ์ อีกเช่นกัน

ฟาเบรกาสเริ่มงานแรกที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม โดยมีริโอ เฟอร์ดินานด์ และปีเตอร์ เคร้าช์ เป็นพิธีกรร่วม สำหรับงานวิเคราะห์เกมดังกล่าว ถือเป็นศาสตร์ความรู้ใหม่ที่ฟาเบรกาสค่อนข้างสนใจ เพราะอดีตกัปตันทีมอาร์เซน่อลตั้งเป้ารับงานโค้ช โดยมีอาร์แซง เวงเกอร์ ตำนานผู้จัดการทีมอาร์เซน่อลเป็นแรงบันดาลใจ อดีตนักเตะเดอะกันเนอร์ กล่าวกับแดลี่ เมล์ “เมื่อผมอยู่กับทีม สิ่งที่ผมมักทำเป็นอันดับแรก ๆ คือ สื่อสาร ผมจะเป็นคนชอบเสนอความเห็น ผมชอบคุยกับเพื่อนร่วมทีมรวมถึงทีมงาน เพื่อมองหาอะไรใหม่ ๆ เสมอ เพราะผมต้องการคำตามที่ตรงไปตรงมา (ชัดเจน)”

อดีตกัปตันอาร์เซน่อลเสริมว่า“บอสอาร์แซงเป็นคนเปิดกว้างเสมอสำหรับความคิดเห็น เขามักชอบพูดคุย เขามักยิงคำถามที่ทำให้คุณต้องคิดหรือแสดงความรู้สึกอยู่เสมอ เช่น นายคุณอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ บลา บลา ผมเป็นนักทดสอบสภาพจิตใจตัวยงคนหนึ่ง” “แต่สำหรับบทบาทโค้ชในตอนนี้มันต่างออกไปจากอดีต เพราะผู้จัดการทีมในตอนนี้ ต้องการรู้ว่าคุณสามารถทำตามสิ่งที่เขาบอกได้หรือเปล่า มันก็แค่นั้นแหละ”

“ผู้จัดการทีมยุคนี้ สามารถทำให้คุณไม่มีสิทธิพูด เพราะมันเป็นวิธีการป้องกันตัวของพวกเขา เพราะพวกเขาไม่ต้องการถูกภามหรืออธิบายให้ใครฟัง” “สำหรับผมอาร์แซน และเดลบอสเก้ คือผู้จัดการทีมที่ผมเคารพมาก และนั่นคือสิ่งที่ผมกำลังจะทำ” เชส ฟาเบรกาส


ติดตามข่าวกีฬา :: อ่านข่าวกีฬา ติดตามวาร์ปสาวสวย :: เปิดวาร์ปน้องอิ๋งอิ๋ง

23 views0 comments
bottom of page